วันอาทิตย์, ธันวาคม 13, 2552

วันพุธ, กันยายน 24, 2551

โผสุดท้าย “ครม.สมชาย” - “พ่อใหญ่จิ๋ว” รองนายกฯ “เหลิม” คุมหมอ




รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ล่าสุดการจัดทำรายชื่อคณะรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ ได้ลงตัวทุกตำแหน่งแล้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีรายชื่อคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ดังนี้


นายกรัฐมนตรี
- นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

รองนายกรัฐมนตรี
- พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์
- นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
- นายโอฬาร ไชยประวัติ
- พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
- นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ
- นายสุพล ฟองงาม

กระทรวงกลาโหม
- นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงมหาดไทย
- พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการ
- นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ
- นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีช่วยว่าการ

กระทรวงการคลัง
- นายสุชาติ ธาดาดำรงเวช รัฐมนตรีว่าการ
- ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีช่วยว่าการ
- นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ

กระทรวงพาณิชย์
- นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการ
- นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ -
- พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ


กระทรวงคมนาคม
- นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการ
- นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีช่วยว่าการ
- นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการ
- นายสมพัฒน์ แก้ววิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการ
- นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการ

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- นายมั่น พันธโนทัย รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
- นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- นายอุดมเดช รัตนเสถียร รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงการต่างประเทศ
- นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวยุติธรรม
- นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงสาธารณสุข
- ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการ
- นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงศึกษาธิการ
- นายศรีเมือง เจริญศิริ รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงพลังงาน
- นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงแรงงาน
- นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงวัฒนธรรม
- นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงอุตสาหกรรม
- พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการ

แหล่งที่มา

http://www.manager.co.th/Politics

จัดทำโดย FastNews

วันพฤหัสบดี, กันยายน 18, 2551

นายกคนที่ 26 ของไทย!!!!


วันนี้ เวลา 17.29 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายร่างประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อทรงพิจารณาลงพระปรมาภิไธย และรับพระราชทานประกาศพระบรมราชโองการ เพื่ออัญเชิญไปดำเนินการต่อไป

ในโอกาสนี้ นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทย จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงแรงงาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน สังกัดพรรคพลังประชาชน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญนิติบัญญัติ มีมติเห็นชอบให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 222/92 หมู่บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ย่านแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้มีการเตรียมความพร้อมรอรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 โดยมีเจ้าหน้าที่จากกองพิธีการ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เดินทางมาจัดเตรียมพื้นที่และโต๊ะพิธีการรับพระบรมราชโองการ

ส่วนบริเวณภายนอกมีการตั้งโต๊ะ เก้าอี้ไว้รอรับแขกที่จะมาร่วมแสดงความยินดีในช่วงเย็น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ทุ่งสองห้อง เตรียมกำลังรักษาความปลอดภัย

ขณะที่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาตรวจความเรียบร้อย และการรักษาความปลอดภัยด้วยตัวเอง และกองกำลังเจ้าหน้าที่ทุ่งสองห้อง รวมแล้วกว่าร้อยนาย โดยจะใช้สโมสรของหมู่บ้านเป็นกองบัญชาการเจ้าหน้าที่ที่ตำรวจมาดูแลความเรียบร้อย และหลังจากนี้ จะมีการสลับสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัย ขณะที่นายสมชายได้แจ้งกับทางตำรวจว่า ไม่อยากให้มีการจัดกองกำลังตำรวจมารักษาความปลอดภัยมากนักรวมทั้งทหารจาก ร.1 พ.2 รอ.รักษพระองค์ จำนวนหนึ่งมาปรับภูมิทัศน์บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งหมู่บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ เป็นหมู่บ้านของตระกูลวงศ์สวัสดิ์

เมื่อเวลา 13.15 น. นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เดินกลับถึงบ้านพัก โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวที่ว่าหลังจากนี้จะไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอีก โดยกล่าวแต่เพียงว่า ขอทำงานเป็นแม่บ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 14.15 น.นายเฉลิม วงศ์สวัสดิ์ พี่ชายของนายสมชาย และนางสุทธิลักษณ์ ศรสำราญ น้องสาวของนายสมชาย ได้นำภาพถ่ายในอดีตที่ถ่ายร่วมกับครอบครัวมาให้สื่อมวลชนได้ชม โดยนายเฉลิมได้เปิดเผยว่า นายสมชายชอบทานอาหารใต้ โดยเฉพาะคั่วกลิ้งหมูสับ แกงเหลือง และแกงไตปลา ทางครอบครัวจึงได้สั่งอาหารใต้จากกระทรวงยุติธรรม ที่นายสมชายได้รับประทานเป็นประจำสมัยที่ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม มาต้อนรับแขกและผู้สื่อข่าวได้รับประทาน

ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น.นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังที่ทำการพรรคพลังประชาชน เพื่อเข้าพบนายสมชาย เพื่ออธิบายขั้นตอนในการรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งฯโดยนายสุรชัย ได้ปฎิเสธว่า ไม่ได้มารับรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ไปตรวจสอบคุณสมบัติ

จากนั้นในเวลา 16.30 น.นายสมชาย ได้เดินทางกลับเข้าบ้าน และเมื่อถามว่า ตื่นเต้นไหม นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ตื่นเต้น มีแต่ความเหนื่อย ซึ่งก็เหนื่อนอย่างมีความสุข ปิติยินดี ที่ไม่เหนื่อยเพราะไม่มีใครทำให้มีความทุกข์



แหล่งที่มา http://www.manager.co.th
ผู้จัดทำ FastNews

วันจันทร์, กันยายน 15, 2551

ตร.สรุปคดี จักรภพ หมิ่นสถาบัน


ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในความเห็นสั่งฟ้อง “จักรภพ เพ็ญแข” หมิ่นพระบรมเดชานุภาพแล้ว รอให้ทาง บช.ก.นัดหมายกับเจ้าตัว ส่งให้อัยการ ระบุหมดหน้าที่ของพนักงานสอบสวนแล้ว วันนี้ (15 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษก ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 ต่อนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ลงนามมีความเห็นสั่งฟ้องตามที่คณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.เป็นประธาน โดยขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อทำการนัดหมายกับนายจักรภพ เพ็ญแข เพื่อประสานงานเรื่องการนัดวันและเวลา ในการส่งสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหาไปให้กับอัยการต่อไป “เมื่อสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการของอัยการแล้ว ก็ถือได้ว่าภาระหน้าที่ของพนักงานสอบสวนก็เป็นการเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีกไม่นาน” พล.ต.ต.สุรพลกล่าว ทั้งนี้ นายจักรภพ เพ็ญแข ถูก พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางมด ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน แจ้งความจับเมื่อวันที่ 24 มี.ค. โดย พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์เข้าพบ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล พนักงานสอบสวน (สบ.2) กลุ่มงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีที่ นายจักรภพแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟทีทีซี) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง มีการกล่าวถึงระบบราชาธิปไตยเปรียบเทียบกับประชาธิปไตยระบบอุปถัมภ์กับสังคมไทย โดยนำแผ่นดีวีดีบันทึกการแถลงข่าวพร้อมกับเอกสารคำแปลภาษาจากอังกฤษเป็นภาษาไทยตามเนื้อหาในแผ่นดีวีดีดังกล่าวมอบให้แก่พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นมีผู้เชี่ยวชาญภาษาหลายฝ่ายได้แปล


แหล่งที่มา ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดทำ FastNews

วันอาทิตย์, กันยายน 14, 2551

ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีผลวันนี้ สมชาย วอนยุติความขัดแย้ง




ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อเวลา 11.15 น. วันนี้ (14 กันยายน) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงยกเลิกประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อวันที่ 2 กันยายนแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ นายสมชาย กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันนี้สถานการณ์ความรุนแรงได้บรรเทาลงแล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกต่อไป พร้อมกันนี้นายสมชายยังได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันเพื่อยุติความรุนแรงความขัดแย้ง เราไม่มีเวลาที่จะขัดแย้งกันอีกแล้ว เพราะว่าขณะนี้ปัญหาของชาติมีอยู่อย่างมากมาย ที่ทุกฝ่ายควรร่วมกันแก้ไข ส่วนผู้ชุมนุมจะชุมนุมก็ได้แต่น่าจะเป็นพื้นที่อื่นที่ไม่ใช่ทำเนียบรัฐบาล

นายสมชาย กล่าวอีกว่า เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ จะมีกองอำนวยการเพื่อติดตามสถานการณ์ร่วม มีทุกฝ่ายเข้ามาร่วมทำงาน เป็นหน่วยงานเฉพาะให้เกิดความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ กทม. มีผบ.ทบ. เป็นผู้อำนวยการ ประสานงานกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่พลเรือน ส่วนผบ.ตร. เป็นผู้ดูแลสถานการณ์ตามปกติ

"สถานการณ์ในวันนี้ไม่ได้มีความรุนแรง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายดำเนินกิจกรรมใดๆ ก็ตามอยู่ในกรอบของกฎหมาย วันนี้เราไม่ควรมาแตกแยกกันอีก การรบราฆ่าฟัน ไม่มีประโยชน์กับผู้ใดทั้งสิ้น" รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าว

นายสมชาย กล่าวต่อว่า จากนี้ไปขอให้มุ่งเดินทางไปสู่ความสงบสุขเรียบร้อย ปรองดองสมานฉันท์ ตนต้องขอขอบคุณ ผบ.ทบ ผบ.ตร ที่ดูแลพี่น้องประชาชน ดับความร้อนแรงลงไปได้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ร่วมทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย รวมทั้งผู้ชุมนุมฯ อยากให้ช่วยแก้ไขปัญหา อย่าเอาชนะโดยไม่ใช้เหตุผล

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

จัดทำโดย:Fastnews

วันพุธ, กันยายน 10, 2551

พลังคนรุ่นใหม่ปลุกเวทีมัฆวานฯ กลับมาคึกคัก หาก พปช. จะให้ท่านหมักกลับมาอีกครั้ง
















ประมวลภาพบรรยากาศบริเวณชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ถนนราชดำเนินนอก เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อบริเวณนี้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของกลุ่มเครือข่ายเยาวชนกู้ชาติหรือ Young PAD เพื่อแสดงพลังนักศึกษาประกาศจุดยืนร่วมขับไล่รัฐบาลทรราช

นายวสันต์ วานิชย์ ผู้ประสานงานยังก์แพด (Young PAD) กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายสมัครพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ว่า เป็นนิมิตรหมายที่ดี ทางเครือข่ายจะให้สมาชิกกลับไปเรียนตามปกติ อย่างไรก็ตาม หากพรรคพลังประชาชนสนับสนุนให้นายสมัครกลับมาเป็นนายกฯ อีก หรือให้คนในระบอบทักษิณ มาเป็นนายกฯ ทางเครือข่ายฯ ก็เตรียมพร้อมที่จะระดมพลกลับมาขับไล่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ตลอดเวลา และอาจมีมาตรการตอบโต้ขั้นต่อไป ส่วนกิจกรรมที่จะดาวกระจายไปสถานที่ต่างๆ จะระงับไว้ก่อน แต่กิจกรรมที่เวทีสะพานมัฆวานฯ ที่มีการเสวนาทางวิชาการก็ยังคงดำเนินการต่อไป
“มาตรการหยุดเรียน 3 วัน เราต้องเลื่อนออกไปก่อนเพื่อไม่ให้เสียการเรียน แต่ยืนยันที่จะมีการชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ ต่อไป เพราะเป็นจุดศูนย์รวมของนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา จนกว่าเราจะได้การเมืองใหม่”นายวสันต์กล่าว



จัดทำโดย FastNews

แหล่งที่มา http://news.thaihealth.net
http://www.manager.co.th

วันอังคาร, กันยายน 09, 2551

“หมัก” บรรลัย! ศาลมีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ชี้พ้นสภาพผู้นำ


มติศาล รธน เอกฉันท์ 9 เสียงเชือด “หมัก”พ้นเก้าอี้นายก-รมว.กห.ระบุ “รับจ้าง”เป็นพิธีกรชิมไปบ่นไป เข้าข่ายเป็น “ลูกจ้าง” แถมยังมีพฤติการณ์เสมือนเป็นหุ้นส่วนบริษัทที่ได้รับประโยชน์ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ขณะเดียวกันยังส่อพิรุธทำหลักฐานย้อนหลังหวังตบตาให้พ้นความผิด จึงให้พ้นจากตำแหน่ง พร้อมชี้ ครม.ยังสามารถรักษาการต่อไปจนกว่าจะชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่

คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยในคำร้องของประธานวุฒิสภาที่ส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อันเนื่องจากเป็นพิธีกรรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า”

ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 บัญญัติห้ามนายกฯและรัฐมนตรีเป็นลูกจ้างของบุคคลใด เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ และรัฐมนตรี เป็นไปโดยชอบ ป้องกันมิให้เกิดการกระทำที่เกิดการขัดกันแห่งผลประโยชน์ อันจะก่อให้เกิดสถานะ การขาดจริยธรรมซึ่งยากในการตัดสินใจ ทำให้ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์สาธารณะ เมื่อผู้ดำรงตำแหน่ง คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์สาธารณะ ฐานขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตัวกับการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่จึงขัดกันในลักษณะที่ประโยชน์ส่วนตัว จะได้มาจากการเสียไปซึ่งประโยชน์สาธารณะ

แต่ในขณะที่นายกของเราดำรงตำแหน่งอยู่นั้น ก็ยังรับค่าตอบแทนจาก บริษัทเฟซ มีเดีย จำกัดอยู่ ดังนั้นจึงเป็นการรับจ้างการทำงานตามความหมายแห่งรัฐธรรมนูญมาตรา 267 แล้ว เป็นการกระทำอันต้องห้ามความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัคร จึงสิ้นสุดลง

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยดังกล่าวแล้ว จึงเป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ แต่ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัคร ที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ เป็นการสิ้นสุดลง ทำให้รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่เหลือ จึงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่

หลังจากนั้น ตัวแทนนักศึกษาได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยว่า ถ้า ส.ส.พรรคพลังประชาชนยังลงมติเลือกนายสมัครกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ทางกลุ่มนิสิตนักศึกษาก็จะยังปักหลักชุมนุมขับไล่อยู่ที่นี่ต่อไป หลังจากนั้นได้มีมีการเปิดวีดีโอเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก

ด้านพรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางพรรคพลังประชาชนจะสนับสนุนให้นายสมัคร มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เว้นแต่นายสมัครจะถอดใจ ไม่ยอมรับตำแหน่งเอง อย่างไรก็ตามทางพรรคได้เตรียมชื่อของนายกฯสำรองไว้แล้ว ซึ่งทางพรรคจะเรียกประชุมด่วน เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าว รวมถึงการเสนอชื่อนายกฯคนใหม่ คาดว่าวัน10 ก.ย.นี้ จะนำเสนอเป็นวาระด่วนเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้
จัดทำโดย : Fastnews