
ในคดีของ"แชมป์"ที่ถูกรุ่นพี่พาไปร่วมกิจกรรมรับน้องโดยวิธีการ “ทิ้งดิ่ง” เอาศีรษะกระแทกพื้นทำให้เลือดคั่งในสมองทำให้ถึงกับเสียชีวิต
มีข้อมูลออกมาใหม่ว่า"แชมป์"ไม่ได้เสียชีวิตโดยวิธีการ"ทิ้งดิ่ง"แต่โดนรุ่นพี่รุมกระทืบอยู่ในห้อง จนทำให้เสียชีวิต เหตุผลเพราะว่า"แชมป์"เคยเรียนที่สถาบันแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยคู่อริกับสถาบันนี้ ทำให้รุ่นพี่เกิดความแค้นจึงรุมทำร้าย
เดี๋ยวนี้นักเรียนนักศึกษามีความโหดร้ายทารุณถึงขนาดนี้กันแล้วเหรอ !
ข้อมูลจาก
สรุปประเด็นข่าวโดย www.kapook.com
ภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
จัดทำโดย
นางสาว จิราวรรณ หมั่นคิด ID:5131202011 สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
นางสาว ณัฎฐินี ธรรมวงศ์ ID:5131601057 สาขาวิชานิติศาสตร์
นางสาว อมรรัตน์ เทพวงศ์ ID:5131601209 สาขาวิชานิติศาสตร์
นางสาว ณาตยา เพ็ชรรัตน์ ID:5131601072 สาขาวิชานิติศาสตร์
นางสาว ฐิติมา ประสงค์ทรัพย์ ID:5131601310 สาขาวิชานิติศาสตร์
นางสาว รัชนก วัชระปิยะโสภณ ID:5131601167 สาขาวิชานิติศาสตร์
นาย พงศธร บวรโกศลจิต ID:5131601127 สาขาวิชานิติศาสตร์
นาย กฤษฏา ใจคำมา ID: 5131601234 สาขาวิชานิติศาสตร์
นาย กฤช จันท์แสนตอ ID : 5131601229 สาขาวิชานิติศาสตร์
นางสาว ปรีชญา บุญสมบัติ ID : 5131601119 ขาวิชานิติศาสตร์
11 ความคิดเห็น:
จากการรับน้องในครั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยดังกล่าวรวมถึงมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่มีการนำน้องๆปี 1 ออกไปรับน้องนอกสถานที่ น่าจะควบคุมนักศึกษาให้รับน้องอยู่ภายในมหาวิทยาลัย และอยู่ในสายตาของครูอาจารย์ด้วย เพราะอาจจะช่วยไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีกตามๆกัน
น่าสงสารพี่แชมป์ ไม่รู้ว่ารู้รึปล่าวว่าสถาบันเดิมของตัวเองเป็นคู่อริกับสถาบันนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่น่าไปทำร้ายเขาแบบนั้นเลย ถึงเขาจะอยู่ในสถาบันคู่อริของตัวเองมาก่อน แต่ตอนนี้เขาก็มาอยู่สถาบันเดียวกันแล้ว น่าจะรักกันไว้
น่าสงสารพ่อแม่ อุตส่าห์เลี้ยงลูกมา แต่ต้องกลับมาตาย เพราะน้ำมือคนเลวๆๆแบบนี้ ทำกันได้ลงคอยังไง ถ้าเปงญาติพี่น้องครอบครัวคุณบ้างล่ะจะรู้สึกอย่างไร ฝากถึงสถาบันนะค่ะ ว่าคุณควบคุมดูแลเด็กในการปกครองของคุณยังไง จะปล่อยให้การรับน้องแล้วมีเด็กตายเช่นนี้อีกกี่คน ถึงจะคิดว่าพอ พวกคุณที่อยู่สถาบันแห่งนี้ คุณจะปล่อยให้สถาบันคุณเปงอย่างงี้หลอค่ะ กลับไปคิดให้มากๆๆนะค่ะ
คนเราเวลาจะทำอะไร ควรคิดถึงคนอื่นบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความเกลียดชังของตัวเองมาลงกับผู้อื่นแบบนี้ เขาไม่ได้ทำอะไรเรา เราก็ไม่ควรไปทำร้ายเขา
ดีน่ะที่มหาวิทยาลัยของเราไม่ได้เป็นแบบนี้
ไม่คิดถึงใจคนอื่นเลย..คนที่เดือดร้อนไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องสูญเสียลูกฝ่ายเดียว คนที่ทำเองก็ต้องเสียอนาคต พ่อแม่อับอายขายหน้า ไม่รุ้จักคิด
การรับน้องคืออะไรสำหรับพวกคุณทุกคน ฝากให้ลองกลับไปคิดหาคำตอบให้ตัวเองดู--
รุ่นพี่ควรมีน้ำใจต่อรุ่นน้อง..ในขณะเดียวกันรุ่นน้องก็ควรให้ความเคารพต่อรุ่นพี่
การรับน้องจำเป็นต้องมีกิจกรรมที่รุนแรงแบบนี้ด้วยเหรอ กิจกรรมรับน้อง ไม่ได้หมายความว่ารุ่นพี่ยินดีต้อนรับรุ่นน้องด้วยความดีใจที่เราจะมาเป็นเด็กในสถาบันเดียวกันหรอกเหรอ
เวลาทำอะไรน่าจะคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นเขาบ้างว่าพ่อแม่เขาจะรู้สึกยังไง ลดๆลงบ้างก็ได้ศักดิ์ศรีน่ะ
การรับน้องในปัจจุบัน นับวันยิ่งจะ รุนแรงมากขึ้นเรื่อย
ดิฉันก็ทราบดีว่า รุ่นพี่ต้องการให้เราเคารพ เชื่อฟัง และมีความรักกัน แต่ทำไมต้องทำขนาดนั้นด้วยไม่เข้าใจ พูดดีๆก็ได้ พูดภาษาคนรู้เรื่อง
ทำไมต้องว๊ากด้วย เก็บกฏมาจากครอบครัวไง?
ชีวิตทุกคนมีค่าน่ะ ทำไมไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรามั้งสิ
แล้วพ่อแม่เขาล่ะขะคิดอย่างไร ไม่เกิดกับตัวเองคงไม่รุ้หรอก
พวกพี่ๆๆ เก็บกดมาจากที่ไหน ทำไมต้องว๊าก ยิ้มไม่เป็นหรือไง เป็นทหารหรือไง ถึงสั่งให้วิดพื้น "น้องปีหนึ่งค่ะ การแต่งการที่ถูกระเบียบ ต้องตามที่มหาวิทยาลัยของเรากำหนดน่ะค่ะ ไม่ย้อมสีน่ะค่ะผม สีธรรมชาติน่ะดีแล้ว" อยากถามมากเลยว่าแล้วตั้งแต่เกิดมาพวกพี่ก็มีผมมีสีแดงมาเลยหรือไง เป็นลูกครึ่งหรือไง สีผมถึงได้เป็นสีทองกันจัง กระโปรง ก็โอ้โห สั้นแล้วสั้นอีก ใส่กางเกงยีนส์มาเรียน แล้วก็ว๊ากอยู่ได้กะเรื่อง การแต่งการเรื่อง สีผม อยากบอกมากเลยว่า "ตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอนน่ะค่ะ" พี่ๆๆๆ
แสดงความคิดเห็น